เสียน เสียม เสี้ยม คือสุพรรณภูมิ
แต่เดิมนั้นตั้งธงกันว่า เสียน, เสียม เสี้ยม
หรือสยาม คือสุโขทัย ความเข้าใจทางประวัติศาสตร์จึงคลาดเคลื่อน ต่อมานักประวัติศาสตร์หลายท่านแสดงความไม่แน่ใจ
โดยเฉพาะจากงานวิจัยของสืบแสง พรหมบุญ ให้เหตุผลว่า “ผู้รู้ภาษาจีนแปลเอกสารจีนผิดพลาด
เพราะในความจริงแล้ว พ่อขุนรามคำแหงไม่เคยไปเมืองจีนเลย”(1) ด้วยเหตุนี้รายละเอียดที่เป็นสุพรรณภูมิ
จึงไปเป็นของสุโขทัยเสียทั้งหมด
แม้กระนั้นก็ยังมีผู้คนอีกไม่น้อยที่สนใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ใคร่รู้ว่าอาณาจักรเก่าแก่นี้เป็นที่ใดกันแน่
ต่อมาพบ “บันทึกย่อเผ่าชาวเกาะ” ของหวางต้ายวน
ที่เดินทางมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้บรรยายไว้ตอนหนึ่งซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ไขไปสู่ความจริงว่า
“เมื่อรัชกาลจื้อเจิ้ง ปีฉลู (ตรงกับพ.ศ.1892) เดือน 5 ฤดูร้อน
เสียนยอมจำนนต่อหลอหู”(4) ข้อความนี้สอดคล้องกับห้วงเวลาที่ต่อมาในปีรุ่งขึ้นพ.ศ.1893
พระยารามก็สถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และก้าวขึ้นสู่ปฐมบรมกษัตริย์แห่งอโยธยาศรีรามเทพนคร
ทรงพระนามสมเด็จพระรามาธิบดี ซึ่ง”เสียน”ที่หวางต้ายวนเรียกนั้นย่อมไม่ใช่สุโขทัย
เพราะสุโขทัยถูกผนวกเข้าเป็นประเทศราชของกรุงศรีอยุธยาในเวลาให้หลังจากนี้อีกนานถึง
29 ปี ในรัชกาลของขุนหลวงพ่องั่ว หรือสมเด็จพระบรมราชาธิราช
ซึ่งเป็นเจ้าแผ่นดินเสียนมาแต่เดิม
นอกจากนั้นในบันทึกย่อเผ่าชาวเกาะ
ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า “....เมื่อใดก็ตามที่มีเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นในเมืองอื่น
พวกนี้จะลงเรือหลายร้อยลำที่บรรทุกสาคูจนเพียบแปร้ และเข้าโจมตีอย่างกล้าหาญ
จนได้ทุกสิ่งที่ต้องการ”
จากความชำนาญของชาวเสียนในการรบพุ่งทางน้ำหรือทางทะเล และย่อมมีเป้าหมายในพื้นที่ที่ห่างไกลออกไปจนถึงขนาดต้องตุนสาคูซึ่งเป็นเสบียงจนเต็มลำเรือ
จึงไม่มีเหตุผลว่า”เสียน”จะเป็นสุโขทัย เพราะสุพรรณภูมิ เป็นชายขอบทะเลและลดระดับเป็นลุ่มน้ำโบราณมาแต่ดั้งเดิม รวมถึงการเข้าครอบครองพื้นที่ภาคใต้ไปจรดปลายแหลมมลายู ซึ่งต้องทำสงครามแย่งชิงและปกป้องมาโดยตลอด
แม่น้ำจระเข้สามพันที่ไหลจากใต้ขึ้นสู่เหนือผ่านเมืองโบราณอู่ทอง ก่อนจะไปทางขวาเข้าเขตเมืองโบราณสุพรรณภูมิตามข้อสังเกตุในเอกสารสมัยราชวงศ์ชิง |
มีบทความที่ ทักษิณ อินทโยธา ศึกษาออกมาระบุว่า
“เอกสารสมัยราชวงศ์ชิงก็ว่า
เสียนนั้นมีแม่น้ำเกิดจากภูเขาทางใต้ไหลขึ้นเหนือมาออกอ่าวไทย” และได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า
“ ซึ่งแม่น้ำลักษณะดังกล่าวก็ไม่มีอยู่ในสุโขทัยหรือละโว้”(5)
เรื่องนี้ตีความไม่ยาก เพราะเสียน ที่โจวต๋ากวาน ระบุว่า
“อยู่ตะวันตกเฉียงใต้ของเจินละ”นั้น มีชัยภูมิที่มีสายน้ำมหัศจรรย์ไหลจากใต้ขึ้นมาเหนือ
ซึ่งก็คือ “แม่น้ำจรเข้สามพัน” ที่ไหลจากเขตภูเขาเป็นลำน้ำแควน้อยและแม่กลองทางด้านใต้ของสุพรรณภูมิ
แล้วแยกตัวเป็นลำน้ำสายรองไหลย้อนขึ้นเหนือไปบรรจบกับลำน้ำท่าว้าบริเวณเมืองโบราณอู่ทองที่เป็นเมืองท่าชายทะเลเมื่อกว่า
2,000 ปีก่อน แล้วไหลขนานพื้นที่ดอนใกล้ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน(ท่าจีน-แม่น้ำสุพรรณ)
ใกล้กับตำแหน่งที่ตั้งของเมืองสุพรรณภูมิ ก่อนจะไหลผ่านทุ่งโบราณสองพี่น้องซึ่งเป็นแอ่งกระทะขนาดใหญ่ไปบรรจบกับแม่น้ำท่าจีนผ่านมณฑลนครไชยศรีและออกสู่อ่าวไทย
"หลักฐานอื่นที่มิใช่ของจีนก็มีเช่นจารึกภาษาจามในเมืองยาตรัง
ที่จารึกว่า กษัตริย์ชัยปรเมศวรวรมันที่ ๑แห่งจัมปา ถวายทาสชาวเขมร,จีน,พุกาม
และสยาม เป็นข้าวัดแห่งหนึ่งเมื่อ พ.ศ.๑๕๘๓” หรือจารึกนครวัดก็มีการกล่าวถึง
“สยาม”เช่นกัน แสดงว่า สยามหรือที่จีนเรียกว่า “เสียน”
นั้นมีอยู่ก่อนสุโขทัยหลายร้อยปีทีเดียว และก็ควรต้องอยู่ในภาคกลาง
หรือภาคใต้ของไทย เมื่อพิจารณาประกอบคำบรรยายทั้งแม่น้ำ และที่ตั้งในเอกสารจีนซึ่งก็สอดรับกับเอกสารฝรั่งในยุคหลังอย่างจดหมายเหตุลาลูแบร์ที่บอกว่า
“สยาม” นั้นแต่ก่อนเรียกว่า “สุพรรณ”(6)
จึงเป็นข้อสรุปได้แล้วว่า เสียน เสียม เสียมก๊ก และเสี้ยมก๊ก คือ “สุพรรณภูมิ”.
ความหมายผิด ชีวิตคลาดเคลื่อน
....วิญญู บุญยงค์...........
*************
เอกสารอ้างอิง
1.สืบแสง
พรหมบุญ.ความสัมพันธ์ในระบบบรรณาการระหว่างจีนกับไทย.มูลนิธีโครงการตำราฯ.พิมพ์ครั้งแรก
พ.ศ.2525. หน้า 73-80.
2.เฉลิม
ยงบุญเกิด.บันทึกว่าด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีของเจินละ.พระนคร.ชวนพิศ.๒๕๑๐.
3.จดหมายเหตุจีนว่าด้วยกรุงสยามแต่โบราณ(เรียบเรียงจากจดหมายเหตุจีน 5 เรื่อง).
4.อาคม พัฒิยะ
และนิธิ เอียวศรีวงศ์.ศรีรามเทพนคร.รวมบทความเรียงว่าด้วยประวัติศาสตร์อยุธยาตอนต้น.เรือนแก้วการ พิมพ์.2527.
5-6.ผิน ทุ่งคา.พ่อขุนรามคำแหงไปเมืองจีนเอาเทคโนโลยีทำถ้วยชามกลับมาสุโขทัยจริงหรือ?.สโมสรศิลปวัฒนธรรม.5 ก.ค.60 . อ้าง ถึง ทักษิณ อินทโยธา. “แย้งข้อสรุปของคณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทยที่ว่า“ เสียน” ในเอกสารราชวงศ์หยวน หมายถึงสุโขทัย”.ศิลปวัฒนธรรมปีที่
9 ฉบับที่ 3 .มกราคม 2531:น.104-111.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น