พระปางมารวิชัยเคลือบ
กรุวัดใหญ่ชัยมงคล
พระนครศรีอยุธยา
พระปางมารวิชัยเคลือบ
หรือที่เรียกกันทั่วไปในหมู่ผู้นิยมสะสมพระเครื่องว่า “พระขุนแผนเคลือบ”
กรุวัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เป็นพระเครื่องที่เชื่อกันว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เมื่อคราวได้รับชัยชนะในศึกยุทธหัตถีเมื่อปีพ.ศ.๒๑๓๕ แตกกรุในราวปีพ.ศ.๒๔๔๐
และมีการลักลอบขุดเรื่อยมา จนต่อมาปีพ.ศ.๒๕๐๐
หลังการสำรวจของกรมศิลปากรเสร็จสิ้น จึงมีการปิดทับกรุพระเจดีย์อย่างถาวร
พระเครื่องที่พบภายในพระเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล
มีด้วยกันหลายแบบพิมพ์ทรง แต่ที่เป็นพระปฏิมาปางมารวิชัยใต้เคลือบ มีอยู่ด้วยกัน ๓
พิมพ์ทรง คือ พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ฐานสูง ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ฐานเตี้ย
และพิมพ์แขนอ่อน ได้รับความนิยมสืบเนื่องนับจากอดีตถึงปัจจุบันทั้ง
๓ พิมพ์ทรง ในจำนวนนี้พระพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่
เป็นแบบพิมพ์ทรงเดียวกับพระพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่เนื้อดินเผา กรุวัดบ้านกร่าง
อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
ซึ่งท่านอาจารย์มนัส โอภากุล นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นสุพรรณบุรี ยืนยันว่า
เริ่มมีการแตกกรุในช่วงปีพ.ศ.๒๔๔๐(1) เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับการแตกกรุของวัดใหญ่ชัยมงคล
พระวัดบ้านกร่าง พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ ภาพจาก:หนังสือพระฯเมืองสุพรรณ ของ อ.มนัส โอภากุล |
ด้วยพุทธลักษณ์
แม้พระพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่จะสร้างในสมัยอยุธยา แต่ก็มีศิลปะสกุลช่างสุพรรณภูมิ(อู่ทอง)รวมอยู่
เมื่อพิจารณาจากพงศาวดารการเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในครั้งศึกยุทธหัตถีที่หนองสาหร่าย
จังหวัดสุพรรณบุรี จึงสันนิษฐานได้ว่า พระพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่และพิมพ์อื่น
ๆของกรุวัดบ้านกร่าง ถูกสร้างเตรียมไว้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อบรรดาทหารหาญของพระองค์ก่อนสู้ศึก
โดยสร้างเนื้อดินเผาที่ไม่ผ่านการกรองดินเพราะเป็นช่วงเวลาเร่งรีบ
หลังได้รับชัยชนะด้วยการปลิดพระชนม์ชีพมังกะยอชวา อุปราชแห่งหงสาวดี จึงมีการนำแบบพิมพ์หลักไปเป็นต้นแบบการสร้างอย่างประณีตสวยงามมากขึ้น เพื่อบรรจุ ณ
พระเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล
ด้านหน้า พระปางมารวิชัย ห้าเหลี่ยม อกใหญ่ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล ปรากฏคราบกรุจากการออกไซด์ของแร่โลหะในดิน และรอยรานจากน้ำเคลือบ |
พระพิมพ์ปางมารวิชัย
ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล เป็นงานสร้างพระพิมพ์ที่ใช้เทคนิคการเผาเคลือบแบบจีน
ใช้เนื้อดินขาวและส่วนผสมมวลสารมงคล แล้วเผาเคลือบใสแบบราน
ผิวพระบริเวณที่เคลือบจึงมีความใสเห็นรอยรานและเนื้อใน เป็นเทคนิคหนึ่งที่ได้รับความนิยมอยู่ในสมัยนั้น
เมื่อนำพระเคลือบที่ได้ไปผ่านกระบวนการต่าง ๆจนบรรจุเข้ากรุในพระเจดีย์
อุณหภูมิจากความร้อนและเย็นอบอยู่ในภายกรุเป็นเวลานาน
ออกไซด์ของแร่เหล็กและตะกั่วที่อยู่ในเนื้อดินและน้ำเคลือบ
จะขึ้นมาปกคลุมผิวด้านบน กลายเป็นคราบกรุที่ใช้สำหรับการพิจารณา
ด้านหลังพระปางมรวิชัยเคลือบ เป้นรอยกดเนื้อพระลงบล็อก หากส่องด้วยกล้องขยายจะพบรอยยุบย่นและรูพรุนปลายเข็มทุกอณู |
คราบของพระเคลือบกรุวัดใหญ่ชัยมงคล
ในด้านหน้าส่วนของน้ำเคลือบ มีการเปลี่ยนแปลงอันเเกิดจากออกไซด์ของเหล็กและตะกั่ว
เป็นจ้ำรูปทรงไม่แน่นอน ออกไซด์นี้จะเปลี่ยนสภาพเป็นสีดำด้านในภายหลัง และถูกเกาะกุมด้วยปรอทที่เกิดความร้อนชื้นภายในองค์พระเจดีย์
นอกจากนี้ยังมีคราบฝุ่นละอองที่เกาะติดแน่น
ซึ่งจะพิจารณาได้ในพระเครื่องที่ไม่ผ่านการใช้ ส่วนพระที่ผ่านการใช้บูชา
จะปรากฏเพียงคราบจ้ำดำคล้ำแต่ไม่ดำสนิทกระจายอยู่ทั่วองค์พระ ส่วนด้านหลังองค์พระที่ไม่ถูกน้ำเคลือบ
เนื้อจะเรียบมีเพียงแอ่งจากการกดแม่พิมพ์ มีแบบที่เป็นรอยนิ้วและรอยกดเรียบ
แต่จะไม่เป็นรูพรุนใหญ่ชัดเจน.
ศึกษาเพื่อการอนุรักษ์วัตถุโบราณ
........จันทร์พลูหลวง............
*********
สวยครับ
ตอบลบ