พระกริ่งบาเก็ง(เล็ก)
เรื่องราวของพระกริ่งบาเก็ง
ได้นำมาลงไว้แล้วใน “พระกริ่ง ๑” ท่านผู้สนใจหากต้องการความต่อเนื่อง
ก็สามารถย้อนกลับไปดูได้ในตอนแรก ซึ่งได้กล่าวถึงพระกริ่งบาเก็งใหญ่มีวรรณะสีดำขนาดใหญ่กว่าวรรณะสีเหลือง ซึ่งในที่นี่จะกล่าวถึงเฉพาะวรรณะสีเหลือง
พระกริ่งบาเก็ง หรือ
กริ่งปทุมสุริยวงศ์ ที่เป็นต้นแบบการสร้างพระกริ่งในสยาม มีอยู่ ๒ แบบ
ตามที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ได้ทรงนิพนธ์เรื่องราวของพระกริ่งไว้ใน “นิราศนครวัด”
โดยตอนหนึ่งทรงระบุถึงสมเด็จพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า
กรมพระยาปวเรศวริยลงกรณ์ ได้ทรงอธิบายว่า
“...เมื่อครั้งรัชกาลที่ ๔
พระอมรโมลี(นพ)วัดบุบผาราม ลงมาส่งมหาปานราชาคณะธรรมยุติในกรุงกัมพูชาองค์แรก
ซึ่งต่อมาได้เปนสมเด็จพระสุคนธ์นั้น มาได้พระกริ่งขึ้นไปให้คุณตา
(พระยาอัพภันตริกามาตย์) ท่านให้แก่เราแต่ยังเปนเด็กองค์หนึ่ง
เมื่อเราบวชเณรนำไปถวายเสด็จพระอุปัชฌาย์(สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์)
ทอดพระเนตร์ ท่านตรัสว่า เปนกริ่งพระเจ้าปทุมสุริวงศแท้
และทรงอธิบายต่อไปว่าพระกริ่งพระเจ้าปทุมสุริวงศนั้นมี ๒ อย่าง เปนสีดำอย่าง ๑
เปนสีเหลืององค์ย่อมลงมากว่าสีดำอย่าง ๑ ...”
พระกริ่งบาเก็งนอกจากจะพบที่เขาพนมบาแค็งแล้ว
ในพื้นที่ประเทศไทยก็พบเช่นกันตามกรุในวัดต่าง ๆ
หลายแห่งอาทิวัดที่สร้างมาก่อนสมัยอยุธยา คือวัดมเหยงค์ และวัดสมณโกฏฐาราม
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดที่สร้างสมัยอู่ทองคือ วัดท่ากระดาน จังหวัดกาญจนบุรี
ส่วนวัดที่สร้างในสมัยอยุธยา คือวัดปราสาทสวนสวรรค์ หรือวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จึงเป็นที่เชื่อถือกันว่าแรกเริ่มการสร้างพระกริ่งของไทยมีอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมขอมโบราณ
ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากต้นทางในอินเดีย จีน และทิเบต
สำหรับพระกริ่งองค์ที่นำมาลงไว้นี้
เป็นพระกริ่งบาเก็ง องค์ขนาดย่อมลงมา เนื้อในเป็นสีเหลืองทอง
ถูกปกคลุมด้วยคราบกรุสีน้ำตาลเข้ม และคราบดำ รวมถึงคราบสนิมเขียว
แต่ได้ทำความสะอาด จนคราบสนิมเขียวน้อยลงไปมาก พระกริ่งบาเก็งชนิดที่ ๒ วรรณะเหลืองนี้
ต่อมาได้กลายมาเป็นพระต้นแบบการสร้างพระกริ่งปวเรศ แห่งวัดบวรนิเวศ พระกริ่งสมเด็จพระสังฆราช(แพ)
โดยเฉพาะพระกริ่งแบบที่นำมาลงไว้นี้ต่อมาพระมงคลราชมุนี ท่านเจ้าคุณศรี (สนธ์
ยติธโร) ศิษย์เอกของเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว)
นำมาสร้างเป็นพระกริ่งอุบาเก็งอีกหลายรุ่นนั่นเอง.
ร่วมกันศึกษาเพื่อการอนุรักษ์วัตถุโบราณ
.............จันทร์พลูหลวง................
*********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น