สมเด็จฯวัดระฆัง
พิมพ์เจดีย์ (เล็ก)
พระสมเด็จฯวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์เล็ก เป็นอีกหนึ่งพระพิมพ์ของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต
พฺรหฺมรํสี) ที่ได้สร้างไว้ เพื่อแจกจ่ายบรรดาศิษยานุศิษย์ตั้งแต่ระดับชาวบ้านไปจนถึงขุนนางข้าราชบริพาร
สำหรับองค์ที่นำมาลงไว้นี้ มีความพิเศษตรงที่ลงรักทั้งองค์แล้วปิดทองด้านหน้าอย่างสวยงาม
เชื่อกันว่าแจกจ่ายให้บุคคลระดับสูง
พระสมเด็จฯวัดระฆัง พิมพ์เจดีย์เล็กองค์นี้
มีจุดพิจารณาเนื้อหาค่อนข้างน้อย เนื่องจากรักที่ถูกทาปิดทับทั้งองค์
และโดยเฉพาะด้านหน้ายังปิดแผ่นทองคำทับอีกชั้นหนึ่ง หากผู้ที่ศึกษาเฉพาะเนื้อหามวลสารพระมาพบแบบนี้ก็อาจเกิดความไม่มั่นใจว่าจะพิจารณาอย่างไร
อันที่จริงการพิจารณาพระลงรักปิดทองที่มีอายุกว่า
๑๐๐ ปีมาแล้ว ให้สังเกตเฉพาะส่วนที่เป็นรักก่อน เนื้อรักที่ถูกทาลงบนเนื้อพระจะบ่งบอกถึงสภาพเนื้อพระที่อยู่ภายในว่าผ่านกระบวนการมาอย่างไร
เช่นหากพระที่ผ่านการกดพิมพ์แล้วนำไปตากภายในร่มด้วยอุณหภูมิปกติ
เนื้อพระจะเรียบตึง หลังจากนำมาทารัก ผ่านเวลามาถึงปัจจุบัน
เนื้อรักจะแนบสนิทกับองค์พระและมีรอยหดตัวไปตามเนื้อพระภายใน
จนสังเกตได้ว่าผิวรักจะเป็นหลุมแอ่ง
แต่หากพระที่ถอดออกจากแม่พิมพ์ถูกนำไปตากในอุณหภูมิที่ร้อนเกินไป ผิวด้านนอกจะเกิดรอยแตกระแหง
เมื่อนำมาทารัก จนผ่านเวลามานาน เนื้อรักก็จะแนบสนิทกับเนื้อพระเช่นกัน แต่จะพบร่องรักที่แนบไปตามเนื้อพระที่แตกระแหงภายในนั่นเอง
ส่วนแผ่นทองที่ปิดทับด้านหน้า
เมื่อเวลาผ่านมานานกว่า ๑๐๐ ปี เนื้อทองก็จะหดตัวไปตามเนื้อรัก
นอกจากจะเป็นแอ่งร่องตามเนื้อรักแล้ว ด้วยคุณสมบัติของทองจะทำให้เกิดเป็นริ้วลายน้ำขึ้นอย่างเป็นอิสสระทั่วทั้งบริเวณของแผ่นทอง
สิ่งนี้ถือเป็นจุดสังเกตของพระสมเด็จฯที่ลงรักปิดทอง
อย่างไรก็ตาม พระสมเด็จฯทุกองค์
แม้จะผ่านการลงรักปิดทองมาทั้งองค์ ก็ย่อมมีรักและทองส่วนใดส่วนหนึ่งหลุดกะเทาะออกไปบ้าง
และการหลุดของเนื้อรักหรือทองจะหลุดออกขาดไปอย่างเด็ดขาด
ไม่เกาะยื้อหรือทำท่าจะหลุด เพราะคุณสมบัติที่แห้งและเปราะของรักนั่นเอง หลังจากนั้นหากพิจารณาอย่างจริงจังก็จะพบเห็นเนื้อใน
ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจอีกขั้นตอนหนึ่ง คือมีความหนึกนุ่ม ซึ้งตา ไม่แห้งฟ่ามเหมือนพระที่มีอายุเพียงไม่กี่สิบปีครับ.
ศึกษาเพื่อการอนุรักษ์วัตถุโบราณ
...........จันทร์พลูหลวง............
*********
ข้อมูลประกอบบทความ
-หนังสือ“สมเด็จพระพุฒาจารย์
(โต พฺรหฺมรํสี) : ผู้ทรงคุณวิเศษเมตตามหาบารมี”.2554.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น