พระสมเด็จฯวัดระฆัง
พิมพ์ใหญ่
อกกระบอก
พระสมเด็จฯวัดระฆัง
ที่สร้างโดยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหฺมรํสี) มีอยู่มากมายหลายพิมพ์ทรง
ตามแต่ศิษยานุศิษย์หรือบุคคลที่เคารพศรัทธาในเจ้าประคุณสมเด็จฯจะแกะแบบพิมพ์มาถวาย
ภายหลังเมื่อมาถึงคนรุ่นปัจจุบัน
จึงมาทำการแยกแยะเฉพาะบางพิมพ์ทรงเป็นหลักในการสะสม มีทั้งหมด ๕ พิมพ์ทรงคือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เจดีย์
พิมพ์ฐานแซม พิมพ์เกศบัวตูม และพิมพ์ปรกโพธิ์
ในแต่ละพิมพ์ทรงยังมีการแตกแขนงตามลักษณะแม่พิมพ์ออกไปอีก
เช่นในพระสมเด็จฯวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ มีการกำหนดเป็น ๔ พิมพ์หลัก
ได้แก่พิมพ์เส้นแซมใต้ตัก พิมพ์อกวี พิมพ์อกกระบอก และพิมพ์เกศทะลุซุ้ม สำหรับพิมพ์ที่นำมาลงไว้นี้เป็นแบบพิมพ์ที่ ๓
คือพิมพ์อกกระบอก ซึ่งจัดเป็นพิมพ์หายากที่สุดพิมพ์หนึ่ง
ลักษณะเด่นของพระสมเด็จฯวัดระฆัง
พิมพ์ใหญ่ อกกระบอก อยู่ที่ลำพระองค์เป็นทรงตั้งรับกับพระอุระ(อก) แล้วผายขึ้นไปรับกับพระอังสา(ไหล่)ทั้งสองด้าน
มองดูเหมือนแก้วทรงปากบานนั่นเอง
เหนือขึ้นไปปรากฏลำพระศอ(คอ)รับกับพระพักตร์ทรงผลสมอ
พระเกศขึ้นจากส่วนกลางพระเศียร โคนใหญ่ ตอนบนเป็นเส้นคมปลายสะบัดแบบหางหนูขึ้นชนขอบซุ้มครอบแก้ว
เส้นสายที่ปรากฏขึ้นเป็นองค์พระ
เส้นฐาน และเส้นซุ้ม มีขนาดกำลังดีไม่หนาเทอะทะ
ประกอบกับการกดพิมพ์ให้น้ำหนักกำลังดี จึงปรากฏความคมชัดตลอดทุกเส้นพิมพ์
และยังเห็นชัดถึงเส้นบังคับพิมพ์ที่ด้านซ้ายองค์พระเป็นเส้นวิ่งตรงจากด้านบนลงมาจรดเส้นซุ้มบริเวณพระกัประ(ข้อศอก)
ส่วนเส้นขวาองค์พระลงมาจากด้านบนวิ่งตรงลงมาชนกับขอบซุ้มล่าง
เสน่ห์ของพระสมเด็จฯวัดระฆัง
พิมพ์ใหญ่ อกกระบอกองค์นี้ อยู่ที่การลงรักน้ำเกลี้ยง
เมื่อรักหมดสภาพสลายหลุดไปจึงปรากฏรอยรานทั่วบริเวณด้านหน้า
และเมื่อพลิกกลับไปด้านหลังยังเป็นแบบหลังปาดลงจนเห็นรอยหยุดขยักเป็นระยะ
และรอยเหนอะที่ปรากฏทั่วแผ่นหลังยังบ่งบอกว่าเนื้อพระสมเด็จฯองค์นี้มีการผสมมวลสารและน้ำมันตั่งอิ้วค่อนข้างเหลว
เมื่อพระแห้งตัวจึงปรากฏรอยเหนอะที่นิยมเรียกกันว่า “หลังสังขยา” ให้เห็นอย่างสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
นอกจากนั้น
ขอบด้านหลังยังปรากฏ รอยแตกรานบริเวณส่วนริมทุกด้าน แสดงให้เห็นถึงสภาวะการรั้งตัวของเนื้อพระ
ที่เกิดจากการหดตัว ซึ่งเป็นคุณสมบัติของพระสมเด็จฯวัดระฆังทุกองค์ครับ.
ศึกษาเพื่อการอนุรักษ์วัตถุโบราณ
........จันทร์พลูหลวง............
*********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น