พระยืนประทานพร
เกศแฉก
ฐานสามชั้น
พระยืนประทานพรองค์ที่นำมาลงไว้นี้มีความพิเศษเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนพระร่วงรางปืนพิมพ์อื่น ๆ ตอนบนเหนือเทริด(กระบังหน้า)มีเกศเป็นขนนก
๕ แฉก พระขนง(คิ้ว)กางเอียงแบบปีกกา พระพักตร์เล็ก ลำพระองค์ได้สัดส่วน พระหัตถ์ขวายกขึ้นทาบพระอุระ(อก)ดูคล้ายคว่ำฝ่าพระหัตถ์เป็นปื้นเฉียง
ส่วนโคนพระหัตถ์มีเนื้อแยกขึ้นตรงคล้ายพระอังคุฐ(นิ้วโป้ง) เป็นเอกลักษณ์ของพิมพ์
ด้านหน้าเกศแฉก พระพักตร์เล็ก ฐานสามชั้น |
พระพาหาซ้าย(แขนท่อนบน)ปล่อยลงเบียดข้างลำพระองค์เล็กน้อย
ก่อนจะผายออกตั้งแต่พระกัประ (ข้อศอก)อกไปชนชายจีวรด้านข้าง
พระหัตถ์เหยียดตรงลงไปตามแนวจีวร พระกฤษฎี(เอว)บาง ผายออกไปเป็นพระโสณี(สะโพก)
ใต้พระนาภี(ท้อง,สะดือ)เป็นขอบสบงรัดประคด ปล่อยชายจีบสบงลงไปยังพระชงฆ์(แข้ง)ประทับยืนภายในซุ้มเรือนแก้วบนฐานสามชั้น โดยส่วนประกอบต่าง ๆเหมือนพระร่วงยืนทั่วไปทุกประการ
จัดเป็นศิลปะลพบุรีที่สร้างโดยช่างท้องถิ่นโดยยึดรูปแบบจากศิลปะบายน
ด้านหลังรางปืน โคนล่างเป็นแอ่งลึก มีเส้นเสี้ยนปรากฏตลอดแนวขึ้นไป |
สนิมชั้นนอกที่เห็นเป็นสีขาวขุ่น
เกิดจากสนิมแป้งที่ผุดขึ้นผ่านชั้นสนิมไขมองเห็นรอยรานแตกระแหงขนาดต่าง ๆทั่วทั้งองค์พระ
รอยรานมีทั้งวิ่งเป็นแนวตรงและแตกลายออกเป็นใยแมงมุม ปะปนด้วยรอยริ้วที่เกิดจากการหดตัวเนื้อพระ
และเม็ดผดเป็นหย่อม ๆ ใต้สนิมไขลงไปเป็นสนิมแดงออกเป็นสีส้ม สีน้ำตาล สีน้ำตาลเข้ม
และบางส่วนคล้ำจนเป็นสีเปลือกมังคุด
รอยแตกรานและยุบย่นที่ปรากฏบนผิวองค์พระ |
พระร่วงยืนพิมพ์ทรงนี้ตลอดราว ๓๐ ปีเคยพบเพียง
๓ องค์ที่เหลือพบในเว็ปไซต์ จึงจัดว่าค่อนหายาก
ผู้ที่ได้ครอบครองไว้เท่าที่สอบถามเป็นมรดกตกมาอีกทอดหนึ่ง
มีบางองค์ที่นำมาลงโชว์ไว้พร้อมระบุข้อความเป็นพระของตระกูลอย่างภาคภูมิใจ
ความพิเศษของพระพิมพ์นี้อยู่ที่องค์พระและกรอบพิมพ์โดยรวมมีการออกแบบได้สัดส่วนอย่างลงตัว
นอกจากเนื้อโลหะที่ผ่านกาลเวลาทำให้เกิดสนิมผุดพรายขึ้นปกคลุมองค์พระอย่างมีเสน่ห์แล้ว
ยังเป็นพระร่วงรางปืนแบบพิมพ์ที่มีเอกลักษณ์อย่างชัดเจน.
ศึกษาเพื่อการอนุรักษ์วัตถุโบราณ
........จันทร์พลูหลวง............
*********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น