พระสมเด็จฯวัดระฆัง
พิมพ์ใหญ่(ประธาน)
พระสมเด็จฯวัดระฆัง
ที่สร้างโดยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหฺมรํสี) องค์นี้เป็นพิมพ์ใหญ่
หรือพิมพ์พระประธาน วรรณะทั้งองค์ออกขาวข้น สะอาดตา องค์พระประทับนั่งบนฐาน ๓ ชั้น
พระเกศปลายสะบัดชนขอบซุ้ม
พระพักตร์กลมเรียวปรากฏพระกรรณ(หู)ลาง ๆทั้งสองด้าน
พระกรรณด้านซ้ายบางกว่าและสูงกว่าพระกรรณขวาเล็กน้อย พระหนุ(คาง)สอบลงรับกับพระศอ(คอ)ที่เรียวลงไปชนส่วนกลาง
พระอังสา(บ่า,ไหล่)ซ้ายสูงกว่าด้านขวา ซอกพระกัจฉะ(รักแร้)ซ้ายสอบลึกสูงกว่าด้านขวา
พระพาหา(แขนท่อนบน)ซ้ายตั้งตรงลงมาถึงพระกัประ(ข้อศอก)ที่หักลงไปชนกับพระกรขวา
องค์พระประทับนั่งในท่าสมาธิราบ ปรากฏพระชงฆ์(แข้ง)ซ้ายเป็นเส้นคมวางพาดมาด้านขวาอย่างเด่นชัด
ปลายพระบาทซ้ายวางลงใต้พระชานุ(หัวเข่า)ขวา เผยให้เห็นร่องลาง
ๆจากปลายพระบาทซ้ายเป็นแนวเฉียงขึ้นไปยังพระเพลา(ตัก) ใต้องค์พระปรากฏเส้นแซมใต้พระชงฆ์ลาง
ๆ ก่อนถึงฐานชั้นที่ ๓ เป็นฐานหมอน และใต้ฐานชั้นนี้ก็ปรากฏเป็นเส้นแซมเช่นกัน
ฐานชั้นที่ ๒ มีลักษณะเป็นขาโต๊ะที่เรียกว่าคมขวานฐานสิงห์ชัดเจน ส่วนชั้นที่ ๑
เป็นฐานแผ่นใหญ่หนาสมบูรณ์ กลางแผ่นปรากฏรอยแอ่งตื้น ๆตลอดแนว
เส้นซุ้มแบบผ่าหวาย
เป็นการกดพิมพ์ได้ลึกจนเผยให้เห็นพื้นผนังภายในซุ้มมีร่องรอยไม่ราบเรียบเสมอกัน
อันเป็นลักษณะเฉพาะของพระสมเด็จฯวัดระฆัง กรอบบังคับพิมพ์ทั้งสี่ด้านเป็นไปตามมาตรฐานพิมพ์นิยม
ส่วนกรอบนอกเป็นการตัดห่างออกจากกรอบบังพิมพ์เล็กน้อย
จึงทำให้องค์พระโดยรวมมีลักษณะโดดเด่น เมื่อประกอบกับเนื้อหามวลสารบางส่วนที่ไม่ละเอียดเป็นเป็นเนื้อเดียวกับผงประธาน
จึงทำให้เห็นการหดตัวของมวลสารอยู่ทั่วไป
ในพระสมเด็จฯวัดระฆัง องค์นี้ยังมีความสวยงามอย่างโดดเด่นจากด้านหลัง
ที่มีการปาดแบบเฉียงจากขอบมุมบนขวาลงมาทางซ้าย
เนื้อพระขณะทำการปาดค่อนข้างเหลว เมื่อผ่านกาลเวลา จึงทำให้เห็นการหดตัวโดยรวมอย่างชัดเจน
ทั้งมวลสารเม็ด และร่องรอยที่เรียกว่า ปูไต่ หนอนด้น รากผัก มีอยู่อย่างครบถ้วน
พระสมเด็จฯวัดระฆัง พิมพ์ทรงใหญ่
หรือพิมพ์พระประธาน องค์นี้จึงจัดเป็นจักรพรรดิพระสมเด็จฯอีกองค์หนึ่ง
ที่ควรค่าต่อการอนุรักษ์ ทั้งด้านการกดพิมพ์ เนื้อหามวลสาร และวรรณะออกขาวดุจงาช้างโบราณ.
ศึกษาเพื่อการอนุรักษ์วัตถุโบราณ
...........จันทร์พลูหลวง............
*********
ข้อมูลประกอบบทความ
-หนังสือ“สมเด็จพระพุฒาจารย์
(โต พฺรหฺมรํสี) : ผู้ทรงคุณวิเศษเมตตามหาบารมี”.2554.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น