สมเด็จอะระหัง
พิมพ์สังฆาฏิ
พระสมเด็จอะระหัง
เป็นพระเนื้อปูนปั้นพิมพ์สี่เหลี่ยมชิ้นฟักสร้างโดยสมเด็จพระอริยวงษญาณ(สุก
ญาณสังวร) สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระอริยสงฆ์ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
รัชกาลที่ ๑ ทรงกำชับให้พระเจ้าลูกยาเธอและพระเจ้าหลานยาเธอทุกพระองค์ต้องไปร่ำเรียนพุทธศาสตร์กับพระองค์
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นพระอาจารย์สอนวิปัสสนาธุระกับธุดงควัตรให้เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต
พฺรหฺมรํสี) และเชื่อกันว่าพระเครื่องพิมพ์สมเด็จอะระหัง เป็นต้นแบบที่เจ้าประคุณสมเด็จฯโต
นำมาพัฒนาต่อจนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางคือพระสมเด็จฯวัดระฆัง
พระสมเด็จฯบางขุนพรหม และพระสมเด็จฯเกศไชโย
พระสมเด็จฯอะระหัง พิมพ์สังฆาฏิ ที่นำมาลงไว้นี้เป็นหนึ่งในหลายพิมพ์ที่สมเด็จพระสังฆราชสุกได้สร้างไว้หลังจากเสด็จจากวัดราชสิทธารามฯมาประทับยังวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ
สำหรับรูปแบบพิมพ์ทรง องค์พระประทับนั่งปางสมาธิภายในซุ้มครอบแก้ว
พระพัตร์กลมคล้ายผลสมอ พระเกศส่วนโคนคอด ส่วนกลางหนา ปล่อยปลายขึ้นไปชนกับขอบซุ้ม
พระกรรณห่างจากพระพักตร์ ด้านขวาองค์พระสูงกว่าด้านซ้าย กลางพระองค์ปรากฏสังฆาฏิพาดเฉียงลงไปยังพระนาภี
ฐานทั้ง ๓ ชั้นเรียงตามยาวลดหลั่นกันไป ฐานบนคล้ายหมอนปลายโค้งขึ้นรับกับพระชานุ(เข่า)
ฐานกลางเป็นเส้นบางที่สุด ฐานชั้นล่างยาวหนาปลายทั้งสองด้านปาดเฉียงลง เส้นซุ้มจากเส้นฐานและโดยรวมมีขนาดเล็ก
ภายนอกเป็นเส้นบังคับพิมพ์สี่เหลี่ยมผืนผ้า
การตัดขอบด้านข้างห่างจากเส้นบังคับพิมพ์เล็กน้อย ด้านหลังปรากฏรอยจารอักขระขอม “อะระหัง”
อันเป็นสัญลักษณ์ของพิมพ์ทรง
เนื้อหาโดยรวมออกสีขาวหม่นไปทางเหลือง
ผิวด้านบนทาด้วยรักน้ำเกลี้ยงแต่หลุดร่อนออกไปเหลือเพียงบางส่วน เนื้อออกหนึกนุ่มซึ้งตาจากการคลายตัวของน้ำประสานภายใน พื้นผิวภายนอกเห็นเป็นมวลสารสีน้ำตาล สีแดง และสีดำ กระจายอยู่ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
บางส่วนคล้ายก้อนเนื้อผงสีขาวฝังตัวอยู่ มีเศษซากออแกนิคฝังอยู่ในโพรงขนาดเล็ก ตามเป็นธรรมชาติของพระเนื้อผงที่ผ่านกาลเวลามานานร่วม
๒๐๐ ปี
สมเด็จฯอะระหัง
ของสมเด็จพระสังฆราชสุก จึงเป็นพระเครื่องอีกองค์หนึ่งที่มีผู้ปรารถนาจะครอบครอง
ด้วยเหตุผลที่สร้างโดยประมุขสูงสุดแห่งพุทธจักร ทรงเป็นพระอริยสงฆ์ที่เป็นพระอาจารย์ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑-๔ และยังทรงเป็นพระอาจารย์ของเจ้าประคุณสมเด็จฯพระพุฒาจารย์
(โต พฺรหฺมรํสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม.
ศึกษาเพื่อการอนุรักษ์วัตถุโบราณ
........จันทร์พลูหลวง............
*********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น