พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่
พระผงสุพรรณ
เป็นพระพิมพ์ที่ปรากฏอยู่ในจารึกลานทอง กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองสุพรรณบุรี
ครั้งแผ่นดินสุพรรณภูมิ ตามปกติแล้วมีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ทรง
แต่ที่ได้รับความนิยมมีอยู่ด้วยกัน ๓ พิมพ์ทรง คือพิมพ์หน้าแก่ หน้ากลาง
และหน้าหนุ่ม
สำหรับพิมพ์ที่นำมาลงไว้นี้ เป็นพิมพ์หน้าแก่
ประทับนั่งปางมารวิชัยบนฐานเขียง เป็นศิลปะสุพรรณภูมิ(อู่ทอง) พระผงสุพรรณ
เป็นพระที่สร้างขึ้นจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์และผงเกสรอันเป็นมงคล มีอายุการสร้างถึงปัจจุบันร่วม
๗๐๐ ปี จึงเป็นวัตถุมงคลโบราณที่ต้องใช้หลายปัจจัยมาพิจารณาประกอบถึงความแท้
การที่พระผงสุพรรณถูกนำไปบรรจุไว้ภายในกรุพระสถูปใหญ่
กลางเมืองสุพรรณภูมิ ผ่านความร้อนอบอ้าว ความเย็น
และความเปียกชื้นอยู่นานหลายศตวรรษ
ย่อมมีผลให้องค์พระสุพรรณเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ท่านอาจารย์มนัส โอภากุล นักประวัติศาสตร์โบราณคดีเมืองสุพรรณ
ได้ให้หลักในการพิจารณา ไว้เป็นอย่างดีแล้ว จึงขอนำมาถ่ายทอดด้วยความเคารพและยกย่อง
ดังนี้
-เนื้อพระผงสุพรรณ มีความละเอียดเนียน หนึกนุ่ม
มีความแห้งผาก อมความเก่าไว้ บางทีก็มีเชื้อราดำเกาะติด
-ความหนึกนุ่มของเนื้อพระผงสุพรรณ
หากมองด้วยสายตาจะเห็นว่ามีความฉ่ำ เมื่อเอาสำลี หรือแปรงขนอ่อนปัดเบาเพียง ๒-๓
ครั้ง จะเกิดความมันขึ้นมาทันที ส่วนของปลอมนั้นสดตา เหมือนอิฐใหม่กับอิฐเก่า
หรือเหมือนหม้อดินใหม่กับหม้อดินเก่า
-ความเหี่ยวย่นจากความหดตัวของมวลสารที่จับกันเป็นผนึก
เมื่อถูกนำไปเก็บไว้ในกรุ ซึ่งมีความร้อนเย็นสลับกันไป ความชื้นในองค์พระจะถูกขับออก จากการระเหยของความชื้นนี่เอง
ทำให้เนื้อพระเหี่ยวหดลงได้...ขอให้สังเกตดูด้านหน้าขององค์พระส่วนที่เป็นผนัง
เช่นที่ซอกพระพาหา-พระกร และซอกพระกรรณ หรือส่วนที่ไม่ใช่องค์พระปฏิมากร
จะเห็นว่าเกิดความเหี่ยวย่นขรุขระเล็กน้อย เหี่ยวมากเหี่ยวน้อยไม่เป็นที่ยุติ
-ขอบข้างของพระผงสุพรรณเกือบทุกองค์ มีรอยตอกตัด
๘๐-๙๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นรอยขีดยาวเป็นทิวลงไปในเนื้อพระ ลักษณะคล้ายตัดด้วยตอก
โดยข้อเท็จจริงตามที่ข้าพเจ้า(อ.มนัส)สันนิษฐานคิดว่าไม่ใช่ตอกตัด
น่าจะใช้ของมีคมหรือมีดตัด เมื่อเฉือนลงไปในเนื้อ เม็ดดินจะลู่ไปตามดิน
ทำให้เกิดรอยขีดขึ้นได้ บางทีมีดที่ใช้ตัดนั้นแห้งเกรอะกรังไปด้วยดินลู่ลงไปในเนื้อ
ทำให้เกิดรอยทิวขึ้น
-ผนังขอบข้าง นอกจากมีรอยตอกตัดแล้วยังมีรอยลึก
เว้าเป็นแอ่งเหมือนหน้ากระดานแอ่น เบื้องต้นที่ใช้ของมีคมเชือดเฉือนเนื้อพระลงไป
ขอบข้างนั้นตรงเรียบ เมื่อเกิดการหดตัวของมวลสารทำให้ขอบข้างนั้นยุบตัวเข้าไปได้
-ด้านหลัง ลายมือที่กดประทับนั้นเชื่อว่าเป็นของมหาเถระปิยทัสสะศรี
ศรีสาริบุตร เพราะลานทองจารึกไว้เช่นนั้น แต่ก็อาจจะมีลายมือบุคคลอื่นผสมผสานเข้าไปด้วย
เพราะเคยเห็นลายมือทั้งก้นหอยและมัดหวาย...เส้นลายมือหยาบและหยักเป็นคลื่นน้อย
ๆเนื่องมาจากการหดตัวของมวลสาร
-คราบกรุพระผงสุพรรณมี ๓ สี คือ สีดำ สีขาว
และสีเหลือง สีดำคาดว่าเกิดจากเชื้อราดำจับอยู่บนผิวเนื้อคล้ายจะร่อนออกมา เป็นสีดำหม่นไม่ใช่ดำสนิทเหมือนขนกาน้ำ
จากข้อสังเกตในการพิจารณาพระผงสุพรรณของท่านอาจารย์มนัส
โอภากุล นี้ นับว่าให้รายละเอียดไว้เป็นอย่างดี
และสามารถนำไปเป็นหลักเกณฑ์ตรวจสอบพระผงสุพรรณอย่างได้ผล
นอกจากนี้ หากพบพระที่มีลักษณะคล้ายพระผงสุพรรณแต่พิมพ์แตกต่างออกไป อย่าเพิ่งวาง ควรพิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆตามข้างต้นก่อน เพราะยังมีพระผงสุพรรณพิมพ์อื่นอยู่อีกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่เป็นที่นิยม อาจมีจำนวนน้อยเกินไปจึงไม่ได้ถูกระบุให้เป็นพิมพ์นิยม บางทีอาจโชคดีได้พระผงสุพรรณแท้ ๆมาครอบครองก็ได้ครับ.
ร่วมกันศึกษาเพื่อการอนุรักษ์วัตถุโบราณ
.............จันทร์พลูหลวง................
*********
ข้อมูลประกอบบทความ
-มนัส โอภากุล.พระฯเมืองสุพรรณ.มนัสการพิมพ์.สุพรรณบุรี.๒๕๓๖:(๑๐๘-๑๐๙).
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น